วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

1. ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต (ให้ตอบมาอย่างน้อย 5 ข้อ)
ตอบ  ด้านการศึกษา
           1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
           2.ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
           3.นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น
            4.ทำการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
ด้านธุรกิจและการพาณิชย์
          1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
          2. สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
          3. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
           4.ทำการตลาด การโฆษณาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ด้านการบันเทิง
          1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine o­nline รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป
          2. สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
          3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้

2. ให้นักเรียนหาประเด็นเกี่ยวโทษของอินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
2.1 โรคติดอินเตอร์เน็ต
ตอบ   1.รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต
          2.มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้นอยู่เรื่อยๆ
          3.ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้
          4.รู้สึกหงุดหงิดเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง หรือหยุดใช้
          5.คิดว่าเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว ทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น1.รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต

2.2 เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม
ตอบ เรื่องของข้อมูลต่างๆที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆนั้นเป็น เรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอเน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนา มากนักทำให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภายเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอเน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่าอินเทอเน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้สื่อเหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้

2.3 ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา 
ตอบ  ม้าโทรจัน (Trojan horse) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
          หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งเพิ่มมากขึ้น
            ระเบิดเวลา  คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำงานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2542

2.4 และโทษของอินเตอร์อื่นๆ มาอย่างน้อยอีก 5 ข้อ
 ตอบ 1.ติดกับการบันเทิงมากไป
         2. อาจถูกหลอกได้
         3.อาจจะลักขโมยเงินพ่อเเม่เพื่อไปเล่นเกมส์
         4.ทำให้เราสายตาเสียได้
         5.ต้องเสียเงินมากเวาลาซ้อมคอมพิวเตอร์

3. ให้นักเรียนคิดโจทย์ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตที่เรียนมาตั้งแต่ต้น มีตัวเลือก พร้อมเฉลย อย่างน้อย 10 ข้อ

1. ข้อใดให้ความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้องที่สุด
ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข. ไซเบอร์สเปช
ค. กลุ่มของคอมพิวเตอร์
ง. การส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง


2. อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นที่ประเทศใด
ก. สหรัฐอเมริกา
ข. อังกฤษ
ค. รัสเซีย
ง. ออสเตรเลีย


3.การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเป็นสมาชิกกับใคร
ก. IPS
ข. ISP้
ค. RSPว
ง. SPI

4. โมเด็มคืออะไร
ก. อุปกรณ์แปลงสัญญาณชนิดหนึ่ง
ข. เครื่องมือในเล่นอินเตอร์เน็ต
ค. เครื่องมือในการส่งข้อมูล
ง. อุปกรณ์แปลงสัญญาณทั้งสัญญาณ อะนาล็อกและดิจิตอล


5. การใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความเรียกว่าอะไร
ก. อีเมล์
ข. การสืบค้นข้อมูล
ค. การโอนถ่ายข้อมูล
ง. การแลกเปลี่ยนข่าวสาร

6. บริการด้าน E-Commerce หมายถึง
ก. การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต
ข. การส่งข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต
ค. การพูดคุยหรือสนทนา
ง. การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

7. @ อ่านว่า
ก. เอ
ข. เอด
ค. แอท
ง. เอ็ก

8. stou.ac.th คำที่ขีดเส้นใต้หมายถึงอะไร
ก. ตัวย่อประเทศ
ข. ชื่อหน่วยงานเจ้าของ
ค. ตัวย่อประเภทขององค์กร
ง. ชื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

9. กระทรวงต่างประเทศของไทยมี DNS ว่าอย่างไร
ก. mfa.or.th
ข. mfa.ac.th
ค. mfa.go.th
ง. mfa.co.th

10. supapong03@chaiyo.com ส่วนใดหมายถึง โดเมนเนม(Domain Name)
ก. supapong03
ข. @
ค. chaiyo
ง. chaiyo.com

เฉลย 
1.ก 2.ก 3.ข 4.ง 5.ก 6.ก 7.ค 8.ค 9.ค 10.ง

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


แบบฝึกหัดที่ 4 
เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)


1. ให้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่างการสืบค้นแบบ Web directory , Meta search , Search engine
ตอบ Web Directory คือ สารบัญเว็บไซต์ที่ให้คุณสามารถค้นหาข่าวสารข้อมูล ด้วยหมวดหมู่ข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน ในปริมาณมาก ๆคล้าย ๆ กับสมุดหน้าเหลือง ซึ่งจะมีการสร้าง ดรรชนี มีการระบุหมวดหมู่ อย่างชัดเจน 
Meta Search คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษา HTML ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex Editor ด้วยภาษา HTML
        Search Engine คือ เครื่องมือการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ โดยกรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหา 
ตัวอย่าง
Web Directory   1. ODP หรือ Dmoz ที่หลาย?ๆ คนรู้จัก ซึ่งเป็น Web Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine หลาย ๆ แห่งก็ใช้ข้อมูลจากที่แห่งนี้เกือบทั้งสิ้น เช่น Google, AOL, Yahoo, Netscape และอื่น ๆ อีกมากมาย ODP มีการบันทึกข้อมูลประมาณ 80 ภาษาทั่วโลก รวมถึงภาษาไทย 
            (URL : http://www.dmoz.org )
                        2. Blog Directory อย่าง BlogFlux Directory ที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกมากมายตามหมวดหมู่ต่างๆ หรือ Blog Directory อื่น ๆ ที่สามารถหาได้จาก Make Many แห่งนี้

 
Meta Search Cyber411 ( http://cyber411.com)
Search Engine Google , Yahoo, MSN, Live, Search, Technorati 

2. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว กับ การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google
ตอบ การใช้คำสั่ง “ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย”จะช่วยให้ใช้เวลาในการค้นหาหน้าเว็บน้อยลงเพราะเมื่อใช้คำสั่ง Google จะเข้าหน้าเว็บแรกที่เป็นผลลัพธ์ของข้อความค้นหาของคุณ ทันที ส่วนการใช้คำสั่งค้นหาแบบธรรมดานั้น Google จะแสดงผลลัพธ์เป็นหน้าเว็บให้คุณเลือกเข้าเอง

3. ในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR เพื่อใช้เสริมในการค้นหา จงอธิบายความแตกต่างพร้อมยกตัวอย่างการใช้งานพร้อมผลลัพธ์ทั้งสอง (แต่ละคนห้ามซ้ำกัน)
ตอบ AND เป็นการให้คำที่เราต้องการค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ ทั้งสองคำ ที่อยู่ระหว่าง “AND”
ตัวอย่าง เช่น  ค้นหาคำว่า thailand and malaysia ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องมีคำว่า thailand and malaysia ทั้งสองคำนี้ปรากฏอยู่ 
OR เป็นการให้คำที่เราต้องค้นหา ปรากฏในผลลัพธ์ คำใดคำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่าง “OR”
ตัวอย่าง เช่น ค้นหาคำว่า thailand or malaysia ผลลัพธ์ที่ได้จะมีคำว่า thailand หรือ malaysia คำใดคำหนึ่ง หรือทั้งสองคำปรากฏอยู่
thailand and malaysia


4. Google Scholar มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ ใช้ในการค้นหางานเขียนทางวิชาการได้อย่างกว้างขวาง และสามารถค้นหาในสาขาวิชาและแหล่งข้อมูลต่างๆ มากมายได้จากจุดเดียว: บทความ peer-reviewed วิทยานิพนธ์ หนังสือ บทคัดย่อ และบทความจากสำนักพิมพ์ทางวิชาการ แวดวงวิชาชีพ ที่เก็บร่างบทความ มหาวิทยาลัย และองค์กรด้านการศึกษาอื่นๆ Google Scholar ช่วยให้คุณสามารถระบุการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในโลกแห่งการค้นคว้าวิจัยทางวิชาการ

5. Google Guru มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไรตอบ เว็บไซต์ย่อยของ Google ที่เปิดให้สมาชิกที่มีบัญชีของ Google เองเช่น Gmail สามารถโพสตั้งคำถามที่อยากจะรู้ และตอบคำถามที่เรารู้เพื่อสะสมคะแนนความน่าเชื่อถือได้ โดยแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ว่ามีคำถามค้างคาใจในเรื่องไหน ก็สามารถเข้าไปตั้งคำถามให้ตรงหมวด และรอคำตอบจากผู้ใช้บัญชี Google คนอื่นมาตอบคำถามได้

6. iGoogle คืออะไรมีไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
ตอบ iGoogle ก็เหมือนกับหน้าเว็บไซต์ Google (ที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆ) แต่ว่าเป็นหน้าของเราเอง โดย i ก็เท่ากับบอกว่า “ฉันไงกูเกิ้ล” ซึ่งไม่ได้มีไว้เพียงแค่ค้นหาเพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถปรับแต่งหน้านั้นอย่างไรก็ได้ แล้วแต่เราพอใจ คือนอกจากที่เราจะสามารถเลือกเนื้อหามาแสดงได้แล้ว รูปร่างหน้าตาของเว็บ iGoogle เราก็สามารถปรับแต่งได้ด้วย เช่น เราชอบใช้ภาษาไทย เราก็ให้มันแสดงเป็นภาษาไทยได้ เปลี่ยนธีม(Theme) หรือรูปร่างหน้าตาทั้งเว็บได้ด้วย

7. จงบอกสิทธิประโยชน์ของการสมัครเป็นสมาชิกของ Google ว่ามีความแตกต่างกับผู้ไม่สมัครอย่างไร (ให้นักเรียนบอกที่มาด้วย)  
ตอบ เมื่อสมัครเป็นสมาชิก Google จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร